วันพุธที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2560

ความเกียจคร้าน

  ความเกียจคร้าน  
คงจะไม่มีใครไม่เข้าใจคำนี้ จึงไม่จำเป็นต้องอธิบาย... ส่วน ขี้เกียจ หรือขี้คร้าน เป็นคำที่เป็นไวพจน์ซึ่งใช้แทนกันได้กับคำนี้... แม้ว่าจะใช้แทนกันได้ก็จริงแต่คำว่า เกียจคร้าน ดูดี หรือน่าใช้กว่า  ... ยังจำได้ว่าตอนเขียนวิทยานิพนธ์อาจารย์ที่ปรึกษาบอกว่าให้แก้ ขี้เกียจ เป็น เกียจคร้านด้วยเหตุผลนี้เหมือนกัน...   
เมื่อเกือบสิบปีก่อน หลวงพี่ซึ่งอยู่กุฏิเดียวกับผู้เขียน ปรารภว่า ไม่รู้ยังไงเดียวนี้ ผมขี้คร้านเหลือเกิน ... และผู้เขียนก็สนทนาไปตามเรื่องตามราว...
ประมาณ ๔ - ๕ ปี มานี้ ผู้เขียนก็รู้สึกเหมือนกับหลวงพี่ กล่าวคือรู้สึกว่าขี้เกียจเหลือเกิน ... และเมื่อวานนี้ความเกียจคร้านก็เข้ามาครอบงำผู้เขียนอย่างหนัก จนกระทั้งก่อนเขียนบันทึกนี้หรืออาจกล่าวได้ว่าบันทึกนี้เขียนขึ้นมาเพื่อค้นหาบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้....
ถ้าจะค้นหาสาเหตุของความเกียจคร้าน ผู้เขียนคิดว่า ความเบื่อ ความเซ็ง ความจำเจความไม่ได้ดังใจ ... น่าจะเป็นสิ่งต้นๆ ที่เป็นสาเหตุ...
สิบกว่าปีก่อนผู้เขียนเบื่อและเซ็งเต็มที่ จึงถามเพื่อนป.ธ. ๙รูปหนึ่ง ท่านบอกว่า คนเราปรารถนาสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ แต่มักจะแก้ปัญหาด้วยวิธีการเดิมๆ ... ทำนองนี้
และเกือบสิบก่อน ผู้เขียนเบื่อและเซ็งสุดๆ อีกครั้ง (อันที่จริงก็เป็นบ่อยๆเพียงแต่ไม่มีสิ่งสะดุดใจที่จะนำมาเล่าเท่านั้น) ไปพลิกหนังสือเล่มโน้นเล่มนี้เพื่อจะนำมาอ่านคลายเบื่อๆเซ็งๆ ได้อีกคราว ก็ไปเจอข้อความหนึ่งบอกว่า ชีวิตไม่ต้องกังวลอะไรนักมันจะแสวงหาความลงตัวของมันเอง.....
................ 
วิธีการแก้ปัญหาความเบื่อ ความเซ็ง ความหดหู่ หรือท้อถอย...สำหรับผู้เขียนก็มีหลายวิธี เช่น อ่านหนังสือ ดูหนัง ไปเที่ยวหรืออยู่อย่างขี้เกียจ....
นิยายจีน หรือหนังจีนโบราณ เช่น ฤทธิ์มีดสั้น ช่อลิ้วเฮียง มังกรหยก ...ก่อให้เกิดพลังใจในการต่อสู้ชีวิตได้ดี ... แต่เมื่อผ่านพ้นวัยมานิยายจีนหรือหนังจีนโบราณเหล่านั้น ก็ไม่สามารถตอบสนองหรือแก้ปัญหาได้ คล้ายๆกับว่า ความเบื่อความเซ็งของผู้เขียนดื้อยาชนิดนี้เสียแล้ว... ประมาณนั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น